INBOUND MARKETING
การตลาด t

INBOUND MARKETING

83 / 100

inbound marketing

Inbound Marketing คือการตลาดแบบดึง (Pull) ลูกค้าเป้าหมายให้เข้ามาหา

โดยสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าออกไป เพื่อให้คนเห็นเป็นจำนวนมาก Inbound Marketing คือการให้คุณค่า ให้ความรู้ ให้ข้อมูล และพาธุรกิจของคุณไปให้ลูกค้าที่ใช่  ในเวลาที่ใช่ และเมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าของคุณจะตัดสินใจซื้อ บริษัทของคุณจะเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ในใจของลูกค้า

ส่วน Outbound Marketing หรือการทำการตลาดแบบผลัก ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ Offline เช่น การโฆษณาบนทีวี, การซื้อป้ายโฆษณา, การออกบูธ เป็นต้นหรือจะเป็นรูปแบบ Online เช่น การซื้อรายชื่ออีเมล, การซื้อโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย หรือการติดแบนเนอร์ เป็นต้น  นั้นเป็นวิธีการที่ได้ผลดี เพราะลูกค้าไม่ได้มีทางเลือกในการเข้าถึงคอนเทนต์มากนัก 

เรากำลังเข้าสู่ในยุคที่เรียกว่า Content Overload หรือการที่มีคอนเทนต์มากมายเกินกว่าที่คนคนหนึ่งจะเสพไหว เพราะ ทุกๆ คนสามารถผลิตคอนเทนต์ และสามารถเป็นเจ้าของช่องทางการสื่อสารได้ พลังอำนาจเลยถูกถ่ายเทจากมือของ แบรนด์/นักการตลาด ไปสู่ลูกค้า จาก Brand-centric เป็น Customer-centric)

ถ้าคุณทำ Inbound Marketing ได้อย่างถูกต้องแล้วจะทำให้คุณสามารถ
ดึงดูดคนเข้ามายังเว็บไซต์ได้มากขึ้น
ปิดการขายได้มากขึ้น
เปลี่ยนคนที่ใช่ให้กลายเป็น Leads หรือลูกค้ามุ่งหวัง
ได้ฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น

Framework ในการทำ Inbound Marketing
4 ขั้นตอนที่จะเปลี่ยนจาก คนแปลกหน้า ให้กลายมาเป็น คนรู้ใจ ที่จะหลงรักแบรนด์ของคุณ

inbound marketing

Attract

ดึงดูด คนแปลกหน้า ที่ไม่รู้จักแบรนด์ของคุณ หรือยังไม่คุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณเข้ามายังแพล็ตฟอร์มที่คุณเป็นเจ้าของอย่างเว็บไซต์ โดยผ่านการสร้างคอนเทนต์ดีๆ บนบล็อก (Blogging) การทำ Search Engine Optimization และการใช้ Social Media อย่าง Facebook, LINE, Instagram, Twitter และ Linkedin ให้เป็นประโยชน์

คนแปลกหน้า ที่คุณดึงเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณนั้น จะไม่ได้เป็นแค่ Random Traffic เป็นจำนวนมาก แต่เป็นกลุ่มคนเฉพาะที่มีความสนใจในคอนเทนต์ที่คุณสร้าง และมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นลุกค้าของคุณ

Convert

เมื่อดึง  คนแปลกหน้า ที่ใช่เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้แล้ว คุณไม่ควรจะปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นผ่านไป โอกาสจะกลายเป็นอากาศ ถ้าคุณไม่ทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อย ทำให้คนเหล่านั้นกลายเป็น “คนรู้จัก” ของคุณให้ได้ก่อน

คุณควรที่จะมีฟอร์ม  Call-to-action หรือ Landing Page เพื่อให้ คนรู้จัก ที่ใช่นั้นทำอะไรบางอย่างที่คุณอยากให้ทำ หรือให้ข้อมูลอะไรบางอย่างที่คุณอยากได้ (Lead Generation) เช่นการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ หรืออีเมลซึ่งถือเป็นช่องทางในการติดต่อกับลูกค้าที่คุณเป็นเจ้าของ หรืออย่างน้อยที่สุดคือให้พวกเขาเหล่านั้นติดตามคุณผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ

Close

เมื่อคุณได้ คนรู้จัก มาแล้ว คุณยังไม่ควรที่จะมุ่งมั่น และตั้งเป้าขายของให้ได้ภายในทันที
เพราะไม่ใช่คนทุกคนที่จะพร้อมเป็น คนซื้อของ ตั้งแต่วันแรกๆ หรือถ้าเขาต้องการเป็น คนซื้อของ  ในวันแรกๆ เลย เขาก็จะหาทางซื้อ หาทางสอบถามคุณเอง

คุณควรที่จะเลี้ยงดู ฟูมฟัก (Lead Nurturing) ค่อยๆ ทำความรู้จัก ค่อยๆ เก็บข้อมูล และค่อยๆ ส่งมอบคุณค่าให้กับ “คนรู้จัก” ของคุณผ่านการส่งอีเมล และโซเชียลมีเดีย และเมื่อถึงวันที่พวกเขาพร้อมที่จะเป็น “คนซื้อของ” เมื่อไหร่ คุณก็จะสามารถส่งมอบคอนเทนต์ และข้อเสนอได้ตรงกับความต้องการของพวกเขาผ่านการตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation)

พร้อมกับการเอาระบบ CRM เข้ามาช่วย การเปลี่ยน “คนรู้จัก” ให้กลายเป็น “คนซื้อของ” ก็จะทำได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Delight

เมื่อคุณได้ “คนซื้อของ” มาเป็นลูกค้าแล้ว หน้าที่ของคุณยังไม่จบแค่นั้น คุณไม่ควรที่จะปล่อยพวกเขาทิ้งๆ ขว้างๆ คุณควรที่จะดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนพวกเขาเป็น “คนรู้ใจ” ด้วย ซึ่งคุณอาจจะลองถามความพึงพอใจของพวกเขาผ่าน Survey หรือสร้างความสัมพันธ์ต่อเนื่องหลักการขายทั้งบนโลกออนไลน์ และโลกออฟไลน์

ถ้าคุณสามารถทำให้ลูกค้าของคุณพึงพอใจแล้ว มันอาจจะทำให้คุณขายสินค้าเพิ่ม หรือทำให้พวกเขาเอาสินค้า หรือบริการดีๆ ของคุณไปบอกต่ออีกด้วย

เปรียบเทียบ Inbound Marketing และ Outbound Marketing

inbound marketing

ที่มา       magnetolabs.com


10 เหตุผลที่คุณควรเริ่มต้นทำ Inbound Marketing

1. 91% ของผู้ที่ใช้ Email ยกเลิกการรับข่าวสารที่เคยลงทะเบียนไว้กับเว็บไซต์ของแบรนด์

2. 84% ของบุคคลที่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี รีบออกจากเว็บไซต์ เพราะไม่ชอบการยัดเยียดโฆษณาในระหว่างที่ใช้งานเว็บไซต์อยู่ หรือมีโฆษณาขึ้น โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์

3. 86% ของผู้คนส่วนใหญ่ กดข้ามโฆษณาทีวี

4. 44% ของ Email ที่แบรนด์ส่งออกไป ไม่เคยเปิดอ่าน Email เลย

5. Inbound Marketing ใช้งบประมาณในการสร้างฐานกลุ่มลูกค้าใหม่น้อยกว่าถึง 62% เมื่อเทียบกับการทำ Traditional Marketing หรือ Outbound Marketing

6. จากการสำรวจบริษัททั่วโลกพบว่า 55% ของบริษัทที่ใช้การทำ Blog Marketing สามารถประหยัดงบประมาณการทำการตลาดได้จริง

7. จากการสำรวจบริษัททั่วโลกพบว่า 47% ของบริษัทที่ใช้การทำ Social Media Marketing สามารถประหยัดงบประมาณการทำการตลาดได้จริง

8. จากการสำรวจบริษัททั่วโลกพบว่า 39% ของบริษัทที่ใช้การทำ SEO สามารถประหยัดงบประมาณการทำการตลาดได้จริง

9. นักการตลาดกว่า 61% ทั่วโลก ลงทุนใน Inbound Marketing มากกว่า Outbound Marketing

10. 67% ของบริษัทแบบ B2C และ 41% ของบริษัทแบบ B2B พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้ลูกค้าส่วนใหญ่มาจาก Facebook อ้างอิงข้อมูลจากภาพ

CREDIT  :    http://mashable.com/2011/10/30/inbound-outbound-marketing/

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://stepstraining.co/strategy/10-reasons-inbound-marketing-and-how-to

คลิกดูเลย         โรงพิมพ์ JR

inbound marketing ต้องทำอย่างไร

inbound vs outbound marketing

โรงพิมพ์ เจอาร์

+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0