เทคนิคการสัมภาษณ์งาน
บริหารบุคคล t

เทคนิคการสัมภาษณ์งาน

81 / 100

การสัมภาษณ์

เทคนิคการสัมภาษณ์งาน

โดยปกติแล้วในการสัมภาษณ์บุคคลเข้าทำงาน ถ้าผู้สัมภาษณ์มีการเตรียมตัวดีหรือมีประสบการณ์มามากพอสมควร ลักษณะการตั้งคำถามของเขาจะตั้งเป็นชุด ๆ ไปเลยทีเดียว และส่วนใหญ่จะตั้งคำถามตามแบบพิมพ์ของใบสมัคร โดยมีการตั้งคำถามเริ่มต้นจากนั้นก็จะตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบคำตอบจากคำตอบที่คุณตอบไป ซึ่งเป็นการถามแบบขยายขอบเขตของเรื่องนั้นไปเรื่อย ๆ โดยที่ผู้ถูกสัมภาษณ์อาจจะไม่รู้ตัว ซึ่งคำถามเหล่านี้หากผู้รับการสัมภาษณ์เตรียมตัวไว้ไม่ดี หรือมิได้ให้ข้อความตามความเป็นจริงหรือเป็นคนที่ขาดจุดยืน มักจุตกม้าตายโดยไม่รู้ตัว


ลักษณะของข้อผิดพลาดก็คือ ผู้รับการสัมภาษณ์ให้คำตอบในเรื่องเดียวกัน 2 ครั้ง ไม่เหมือนกัน อันอาจจะเกิดจากการจำเรื่องที่เคยพูดไว้แล้วไม่ได้ เพราะไม่ได้พูดความจริง หรอืพูดเกินเลยความจริง ประเภทขี้โม้หรือมีลักษณะที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง พอถูกสัมภาษณ์คัดค้านหรือแสดงความขัดแย้ง ผู้รับสัมภาษณ์ก็คล้อยตามทันที ทั้ง ๆ ที่ผู้สัมภาษณ์เองก็มิได้ตั้งในคัดค้านอะไร แน่วแน่แค่ไหน หรือรู้อะไรจริงบ้าง พอผู้รับการสัมภาษณ์เริ่มไขว้เขว นั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้รับการสัมภาษณ์ขาดความมั่นใจในตัวเอง


จุดอ่อนต่าง ๆ เหล่านี้ ผู้รับการสัมภาษณ์สามารถจะแก้ไขได้โดยการเตรียมตัวตั้งคำถามตนเอง ตอบตนเอง โดยคำตอบนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งคุณไม่ต้องไปกังวลว่า คำตอบของคุณ 2 ครั้งไม่เหมือนกัน ถ้าคุณตอบคำถามตามความเป็นจริง ไม่ว่าผู้สัมภาษณ์จะมารบกวนคุณอย่างไร หรือกี่คนที่สัมภาษณ์คุณก็จะได้คำตอบแบบเดียวกัน


ลองตั้งคำถามในการสัมภาษณ์คัดเลือกบุคคลเข้าทำงานโดยจะแยกคำถามเป็นชุด ๆ ไปตามลำดับในใบสมัครโดยทั่วไปให้คุณทดสอบตอบตัวเองหรือจะให้เพื่อนช่วยถามและคุณตอบ แล้วให้เพื่อวิจารณ์ว่าฟังคำตอบคุณแล้วเขารู้สึกอย่างไร เข้าท่าแค่ไหน หรือฟังแล้วเหมือนเล่านิทานจับต้นชนปลายไม่ถูดแม้ได้พูดความจริงแล้วก็ตาม

คำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์เป้นคำถามที่ทั่วไป ซึ่งพอจะแย่งออกเป็นหัวข้อได้ดังนี้

1. ชีวประวัติเบื้องต้น
2. 
การศึกษา
3. 
ประสบการณ์ในการทำงาน
4. 
ความสามารถส่วนตัว
5.
เรื่องทั่วไป

1. ชีวประวัติเบื้องต้น

กรุณาเล่าชีวิตในวัยเด็กให้ผมฟัง
คุณเกิดที่ไหน หรือคุณเติบโตที่ไหน
กรุณาเล่าเรื่องครอบครัวของคุณให้ฟัง
กรุณาเล่าเรื่องเกี่ยวกับบิดามารดาของคุณ
คุณมีพี่น้องทั้งหมดกี่คน ตอนนี้ประกอบอาชีพอะไรบ้าง
ทำไมคุณจึงมิได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ของคุณ
คุณมีความภูมิใจในคุณพ่อคุณแม่ของคุณอย่างไรบ้าง
ชีวิตของคุณในวัยเด็ก ใครเป็นผู้มีอิทธิพลต่อคุณมากที่สุด และมีอิทธิพลในทางไหนมากที่สุด
คุณมีความรู้สึกอย่างไรในการที่คุณพ่อ คุณแม่ของคุณต้องแยกกันอยู่

2. การศึกษา

คุณเรียนชั้นมัธยมฯ ที่ไหน
ผลการเรียนเป็นอย่างไรบ้าง
คุณเรียนรู้อะไรจากการศึกษาในระดับมัธยม
ใครมีอิทธิพลต่อคุณมากที่สุดในช่วงเรียนชั้นมัธยมฯ และในด้านใด
คุณเรียนที่มหาวิทยาลัยอะไร
ทำไมคุณจึงเลือกเรียนสาขาวิชานี้
ผลการเรียนของคุณเป็นอย่างไร
คุณชอบวิชาไหนมากที่สุด เพราะอะไร
คุณสามารถทำคะแนนได้ดีในวิชาใด เพราะอะไร
คุณคิดว่าคุณจะใช้วิชาความรู้ที่คุณเรียนมานี้ให้เป็นประโยชน์กับงานที่คุณสมัครนี้อย่างไร
เวลาว่างจากการเรียนทำอะไรบ้าง
ในระหว่างการเรียนคุณใช้จ่ายเงินอย่างไร
คุณชอบกีฬาหรือไม่ คุณเล่นกีฬาอะไร
คุณเป็นสมาชิกชมรมอะไรต่าง ๆ บ้างหรือไม่ เพราะอะไร
ในระหว่างการศึกษานี้คุณมีเพื่อนสนิทกี่คน เพื่อน ๆ ที่สนิทกันนี้ได้งานทำแล้วหรือยัง ที่ไหน
ระหว่างที่คุณอยู่ในกลุ่มเพื่อน ใครเป็นผู้นำหรือชักจูงให้เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ

3. ประสบการณ์ในการทำงาน

ขอให้เล่าถึงประวัติการทำงานของคุณโดยย่อตั้งแต่เริ่มทำงานครั้งแรก
คุณเปลี่ยนบริษัทกี่ครั้ง แต่ละครั้งมีสาเหตุอะไร
ขอให้เล่าหน้าที่งานที่ผ่านมาว่าทำอะไร
สิ่งจูงในให้คุณเข้าทำงานในแต่ละบริษัท มีอะไรบ้าง
คุณคิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตในการทำงานของคุณ
อะไรเป็นสิ่งชักนำให้คุณมาดำรงตำแหน่งนี้
ถ้าเราพูดคุยกับหัวหน้าเก่าของคุณที่บริษัท คุณคิดว่าเขาจะพูดอย่างไรเกี่ยวกับตัวคุณและผลงานของคุณ
ในชีวิตการทำงานที่ผ่านมา คุณคิดว่าคุณประสบความสำเร็จอะไรบ้าง
ในการทำงานของคุณ คุณเคยพลาดอะไรบ้าง
บรรดาตำแหน่งงานที่คุณเคยทำมา ตำแหน่งไหนที่คุณชอบมากที่สุด ตำแหน่งไหนที่คุณชอบน้อยที่สุด เพราะอะไร
คุณคิดว่าคุณมีจุดอ่อนหรือไม่ และควรปรับปรุงอย่างไร
คุณคิดว่าคุณมีจุดเด่นหรือความสามารถพิเศษอะไร และจะเป็นประโยชน์ต่องานที่สมัครนี้อย่างไร
คุณมีแผนการในชีวิตการทำงานของคุณอย่างไร
ถ้าคุณเป็นบริษัท คุณจะจ้างตัวคุณสำหรับตำแหน่งนี้ไหม ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น


ขอบคุณบทความดีดีจาก  www.thaihomemaster

โรงพิมพ์ เจอาร์

คลิกเพื่อดู       โรงพิมพ์ JR

วิธีพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0
+1
0