วัดศาลเจ้า แปะโรงสี
วัดศาลเจ้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ในพื้นที่ ต.บางกลาง อ.เมือง ปทุมธานี
วัดศาลเจ้า เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่า 200 ปี
ประวัติการสร้างวัดศาลเจ้านั้น กล่าวว่า วัดนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา โดยชาวรามัญที่อพยพหลบหนีภัยสงครามจากพม่า เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ในครั้งนั้นชาวรามัญเข้ามากันเป็นจำนวนมาก โดยแยกย้ายกันไปตั้งถิ่นฐานทั้งในพื้นที่เมืองสามโคก หรือเมืองปทุมธานีในปัจจุบัน เมืองพระปะแดง ปากเกร็ด ปากลัด เป็นต้น ชาวมอญ หรือชาวรามัญเหล่านี้ล้วนแล้วแต่นับถือพระพุทธศาสนา เมื่อตั้งหลักปักฐานมั่นคง ก็มีการสร้างวัดขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ รวมทั้งปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ และวัดแห่งนี้ก็เจริญรุ่งเรืองสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ศาลแปะโรงสี หรือ ศาลเเซียนแปะ
ที่วัดแห่งนี้นอกจากจะมีพระอุโบสถที่งดงามเจดีย์ทรงรามัญ รวมทั้งเสนาสนะต่างๆดังเช่นวัดทั่วๆไปแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือศาลเซียนแปะหรือแปะโรงสี ฆราวาสผู้เรืองวิทยาคม จนเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้ว่าในทุกๆวันจะมีประชาชนจากทุกสารทิศ เดินทางมากราบไหว้ขอพรแปะโรงสีกันอย่างเนืองแน่น
แปะโรงสีหรือเซียนแปะได้รับการยกย่องว่า เป็นเซียนโดยเฉพาะ เหรียญ ล๊อกเก็ต และผ้ายันค์ฟ้าประทานพรอันโด่งดัง เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์และผู้เคารพเป็นอย่างสูง
แปะโรงสีหรือนายกิมเคยหรือกิมโคย แซ่โง้วเกิดที่ประเทศจีน ติดตามบิดามารดาเข้ามาถึงพระบรมโพธิสมภารตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเติบโดขึ้นมาก็ประกอบอาชีพค้าขายข้าวเปลือก ต่อมาเมื่อกิจการดีขึ้นจึงได้ร่วมลงทุนทำกิจการโรงสีข้าว และแต่งงานกับนางศรี เอี่ยมเข่ง และเริ่มดำเนินกิจการโรงสี ที่เป็นของตนเองที่บริเวณปากคลองเชียงราก เยื้องกับวัดศาลเจ้าในนาม โรงสีไฟทองศิริ และโอนสัญชาติเป็นไทย รวมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น นายนที ทองศิริ
ด้วยอุปนิสัยของท่านที่เป็นคนโอบอ้อมอารีย์ ชอบชี้แนะและให้ความช่วยเหลือผู้อื่น อีกทั้งยังเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาคม มีวิชาไล่ฝน ปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศ จนลูกศิษย์ที่เคารพนับถือยกย่องให้เป็นเซียน เรียกกันว่าเซียนแปะ โรงสี ทั้งนี้ท่านมักจะช่วยชี้แนะแก่ลูกศิษย์ เกี่ยวกับเรื่องฮวงจุ้ย ทำเลที่ตั้งร้านค้าบ้านเรือน โดยไม่คิดค่าตอบแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับคำแนะนำหรือชี้แนะจากท่าน จะประสบความสำเร็จกิจการค้าขายเจริญรุ่งเรืองจนเป็นที่เลื่องลือ แม้แต่เจ้าสัวใหญ่ระดับประเทศก็ยังได้รับคำชี้แนะจากเซียนแปะ จนกิจการค้าเจริญรุ่งเรืองใหญ่โตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เซียนแปะโรงสีถือเป็นกำลังสำคัญในการบูรณะวัดศาลเจ้า ซึ่งในสมัยนั้นการคมนาคม การขนส่งยังลำบาก แต่ท่านไม่เคยย่อท้อ ได้ร่วมแรงร่วมใจกับผู้มีจิตศรัทธา ทำการบูรณะวัดศาลเจ้าจนสำเร็จลุล่วง อีกทั้งท่านยังเป็นผู้กำหนดวันในการจัดงานประจำปีศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า คือ วันขึ้น5ค่ำ เดือยอ้าย หรือเดือน1ถึงวันขึ้น8ค่ำ รวมงาน4วัน4คืน ซึ่งชวาไทยเชื้อสายจีนจะเรียกช่วงนี้ว่า เจียง่่วย ซิวโหงว ถึง เจียงง่วย ซิวโป๊ย และยึดถือเป็นประเพณีสืบต่อมา
ความโอบอ้อมอารีย์ คอยชี้แนะให้คำแนะนำแก่ลูกศิษย์ และประชาชนทั่วไปของเซียนแปะ ดำเนินติดต่อมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต เซียนแปะโรงสี จากลูกศิษย์ไปในวันที่ 16 มกราคม 2526 ด้วยอายุ 85 ปี หลังเสร็จสิ้นพิธีศพของท่าน ทางครอบครัวและคณะศิษย์ได้จัดสร้างรูปเหมือนขนาดเท่าตัวจริง ตั้งไว้ให้เป็นที่สักการะบูชา ณ ศาลานที ทองศิริ ภายในวัดศาลเจ้า จนถึงทุกวันนี้
ความโอบอ้อมอารีย์ คอยชี้แนะให้คำแนะนำแก่ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปของเซียนแปะ ดำเนินติดต่อมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต เซียนแปะโรงสี จากลูกศิษย์ไปในวันที่ 16 มกราคม 2526 ด้วยอายุ 85 ปี หลังเสร็จสิ้นพิธีศพของท่าน ทางครอบครัวและคณะศิษย์ไ ด้จัดสร้างรูปเหมือนขนาดเท่าตัวจริง ตั้งไว้ให้เป็นที่สักการะบูชา ณ ศาลานที ทองศิริ ภายในวัดศาลเจ้า จนถึงทุกวันนี้
หลังจากกราบพระ ไหว้เซียน แล้วก็เดินเที่ยวชม ชิมสินค้าพื้นที่ และอาหารอร่อยๆ ที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ใกล้เคียง นำมาวางจำหน่ายกันอย่างมากมาย ภายในบริเวณวัดศาลเจ้า อาทิ ก๋วยเตี๋ยวรสเลิศ ที่มีอยู่หลายร้าน ล้วนแล้วแต่อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่แวะเวียนกันเข้าไปอุดหนุน ขนม กุ๋ยช่ายเลื่องชื่อ ห่อหมกเลิศรส ขนมไทยๆ หลายหลาก ผักผลไม้สดๆของชาวบ้านที่นำมาจำหน่าย ก่อนกลับก็อย่าลืมแวะไปทำทาน ให้อาหารปลาที่ริมแม่น่ำเจ้าพระยา ที่มีปลาหลากหลายสายพันธ์ นับหมื่นนับแสนตัวที่รอการมาเยือนของทุกๆท่านด้วยนะครับ
ขอบคุณบทความดีดีจาก www.77kaoded.com
Tag : วัดศาลเจ้า แปะโรงสี โง๊วกิมโคย เซียนแปะ
คลิกดูเลย วัดอินทาราม
วัดป่าศรีคุณาราม พระอรหันตธาตุ
คลิกดู โรงพิมพ์ เจอาร์ com