Inbound vs Outbound Marketing

83 / 100

Inbound vs Outbound Marketing เป็นกลยุทธการตลาดที่ใช้วิธีการตรงกันข้ามกัน

Outbound Marketing

คือการทำตลาดเพื่อให้ลูกค้ารู้จักเราเลยในทันที โดยผลักดันเนื้อหาของสินค้าหรือบริการผ่านสื่อต่างๆ ที่เราต้องการให้ลูกค้าเห็น ไม่ต้องรอให้ลูกค้าเข้ามาเห็นเนื้อหาที่เราเขียน จึงเปรียบได้ว่าเป็นการตลาดในรูปแบบผลัก

การทำตลาดแบบ Outbound เป็นการตลาดโดยเน้นการโปรโมต เพื่อให้เข้าถึงคนจำนวนมากได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์หรือสินค้าของเราได้ในทันที โดยไม่ต้องเสียเวลามาทำเนื้อหาหรือทำคีย์เวิร์ด ก็ทำให้คนจำนวนมากเข้าถึงได้ แต่การทำตลาดแบบ Outbound ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพื่อโฆษณาไปตามสื่อต่างๆ ยิ่งโฆษณามากค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงมากขึ้น

พื้นฐานของแนวคิดนี้คือการใช้สื่อโฆษณาในวงกว้าง เพื่อที่จะโฆษณาสินค้าไปยังผู้บริโภค ด้วยความหวังที่ว่าน่าจะมีคนตอบรับ ถ้าไปเจอกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มากเพียงพอ กลยุทธ์การตลาดแบบนี้แต่ก่อนอาจจะใช้ได้ผลอยู่ครับ แต่ปัจจุบันมันเริ่มไม่มีความแตกต่าง และผู้คนก็เริ่มไม่สนใจโฆษณาเหล่านี้อีกต่อไป ปัญหาอีกหนึ่งอย่างในการทำกับการตลาดแบบนี้ก็คือ ผู้บริโภคหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายของคุณก็จะเห็นโฆษณาของคุณไปด้วย ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูง และประสิทธิภาพน้อยลงนั่นเอง

Inbound marketing

หมายถึงกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการดึงดูดความสนใจจากคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของเรา เราจะใช้วิธีดึงผู้คนให้เข้ามายังเว็บไซต์ เพื่อให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จัก ให้มากขึ้น และสร้างให้แบรนด์กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้นๆ ด้วย Content หรือเนื้อหาที่ทรงคุณค่าเหล่านั้น

จะเห็นได้ว่าการตลาดแบบ Inbound และ Outbound มีทิศทางการทำงานตรงกันข้ามกัน และใช้เครื่องมือในการทำต่างกันมาก หลักๆเลยคือค่าใช้จ่าย Inbound แถบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น ต่างกับ Outbound ค่าใช้จ่ายมาก และยิ่งมากขึ้นหากต้องการโปรโมตเป็นเวลานาน แต่การทำงานของ Outbound ลูกค้าจะเข้าถึงและรู้จักสินค้าและบริการของเราได้รวดเร็ว และเป็นจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ ต่างกับ Inbound ที่ต้องคอยทำเนื้อหาที่ดีมีคุณภาพ และรอให้คนที่สนใจหรือมีความต้องการเกี่ยวกับสินหรือบริการนั้นเข้ามาหาอีกที

Inbound Marketing
การได้รับอนุญาตจากลูกค้า
กลยุทธ์แบบใช้แรงดึงดูด
การสื่อสารแบบสองทาง
ส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าน้อย
ลูกค้าวิ่งเข้ามาหาเราเอง
ช่องทางได้แก่: Search engine, social media

Outbound Marketing

การขัดจังหวะลูกค้า

กลยุทธ์แบบใช้แรงผลัก

การสื่อสารแบบทางเดียว

ส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าได้

ลูกค้าเข้ามาเราในภายหลัง

ช่องทางได้แก่: โฆษณาสิ่งพิมพ์ โฆษณาทางทีวี โฆษณาทางวิทยุ

การสื่อสารแบบสองทาง

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Inbound และ Outbound marketing ก็คือการสื่อสารแบบ Outbound marketing เป็นการสื่อสารแบบทางเดียว ธุรกิจดังกล่าวจะส่งข้อความเกี่ยวกับแบรนด์ของตัวเองออกไปตรงๆ ด้วยการสื่อสารแบบนี้ ผู้คนก็ไม่สามารถที่จะโต้ตอบ หรือบอกความต้องการของพวกเขากลับมาให้แบรนด์นั้นได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ พวกเขาอาจหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงการรับรู้โฆษณาของเราไปเลยก็ได้ครับ

ด้วยการตลาดแบบ Inbound marketing ผู้คนสามารถพูดคุย และมีส่วนร่วมกับแบรนด์นั้นๆ ได้ พวกเขาสามารถส่งอีเมล คอมเม้นท์ไว้ในบล็อก หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย เขียนรีวิวในเว็บไซต์ต่างๆ ในยุคนี้อินเทอร์เน็ตได้ให้อำนาจแก่ผู้บริโภคแล้วครับ หากธุรกิจของคุณไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการตรงกับสิ่งที่คุณโฆษณาเอาไว้แล้วละก็ ผู้บริโภคก็จะแชร์สิ่งเหล่านี้ออกไปในโลกออนไลน์ และคุณก็ไม่สามารถที่จะปกปิดสิ่งเหล่านี้จากโลกออนไลน์ได้แน่นอนครับ

กุญแจสู่ความสำเร็จในการทำ inbound marketing ก็คือความโปร่งใส ความซื่อสัตย์สุจริต และการมีส่วนร่วม ดังนั้นเราจะต้องโปร่งใส และซื่อสัตย์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการของเรา และเราจะต้องมีส่วนร่วมกับผู้ที่กำลังพูดถึงแบรนด์ของเราแม้ว่าจะเป็นในแง่ลบก็ตาม การสื่อสารแบบสองทางนี้อาจดูน่ากลัวสำหรับธุรกิจที่มีการลงทุนอย่างมหาศาลในตลาดแบบเดิมๆ แต่มันมีเป็นประโยชน์อย่างมาก การได้สื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรงไม่เพียงแต่สร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราทราบว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอยู่บ้าง ซึ่งเราจะได้แก้ปัญหานั้นๆได้ นอกจากนี้เรายังสามารถให้ลูกค้าของเรากลายเป็น Brand ambassadors โดยพวกเขาสามารถเขียนรีวิว โปรโมทสินค้า หรือบริการของเรา แชร์ หรือแนะนำต่อในโซเชียลมีเดียได้อีกด้วยครับ

credit: sakuni-ecommerce.com

credit: powerplus.agency

คลิกดู โรงพิมพ์ JR