ข้อควรทราบในการจดทะเบียน
1. ชื่อนิติบุคคลที่จองแล้วจะโอนให้ผู้อื่นใช้จดทะเบียนได้หรือไม่
การจองชื่อเป็นการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท ดังนั้น ชื่อนิติบุคคลที่นายทะเบียน อนุญาตให้จองแล้ว ผู้จองจึงต้องใช้ชื่อที่จองนั้นจดทะเบียนภายในเวลาที่กำหนด ผู้จองไม่สามารถจะโอนให้ผู้อื่นใช้ชื่อที่จองเพื่อจดทะเบียนได้
2. ใบจองชื่อที่ระบุชื่อที่จองชื่อ หรือชื่อสกุลผู้จองผิด จะขอแก้ไขได้หรือไม่
ชื่อที่อนุญาตให้จองแล้ว และปรากฎว่าชื่อที่จองหรือชื่อสกุลผู้จองชื่อผิด ผู้ขอจองสามารถจะแก้ไขได้ โดยการทำหนังสือขอยกเลิกการจองชื่อพร้อมกับ คืนใบจองชื่อเดิม และยื่นใบจองชื่อใหม่ที่ถูกต้อง
3. จะทำธุรกิจ ควรตั้งกิจการในรูปแบบใดดี
การที่จะเลือกรูปแบบธุรกิจใดที่จะเหมาะสมในการประกอบธุรกิจนั้น ต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ ด้านประกอบกัน เช่น ขนาดของธุรกิจ ธุรกิจที่ประกอบ มีฎหมายหรือระเบียบกำหนดรูปแบบธุรกิจไว้ ความจำเป็นในการระดมเงินทุน ธุรกิจมีความจำเป็นต้องติดต่อกับต่างประเทศและค่านิยมและความเชื่อถือ ของสังคม เป็นต้น
4. ตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต้องใช้ทุนจดทะเบียนเท่าไหร่
ความเหมาะสมของทุนในการตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้เงินทุนในการประกอบธุรกิจแต่ละประเภท รวมทั้งขนาดธุรกิจซึ่งไม่เท่ากัน ดังนั้น ก่อนจัดตั้งจึงควรทำการศึกษาว่า ธุรกิจที่จะทำนั้นต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ และสามารถระดมเงินทุนจากผู้ร่วมลงทุนได้เป็นจำนวนเท่าใด และให้จดทะเบียน ไปตามความเป็นจริงนั้น
5. เป็นผู้ถือหุ้นแล้วจะลาออกได้อย่างไร
เมื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดแล้ว ไม่สามารถลาออกเหมือนกับกรรมการได้ แต่สามารถโอนหุ้นให้บุคคลอื่นและจดแจ้งเปลี่ยนชื่อผู้รับโอนเป็นผู้ถือห้นแทนได้
6. การโอนหุ้น
การโอนหุ้น เป็นเรื่องภายในของบริษัท ที่ต้องดำเนินการกันระหว่างผู้โอนและผู้รับโอน โดยต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของผู้โอนและผู้รับโอน มีพยาน คนหนึ่งเป็นอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือชื่อนั้น ๆ ด้วย และการโอนหุ้นจะใช้แก่บริษัทหรือบุคคลภายนอกได้ ก็ต่อเมื่อได้จดแจ้งการโอน ทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้นแล้ว
7. สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น มีหน้าตาเป็นอย่างไร และจะหาชื้อได้ที่ไหน
สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น คือ สมุดสำหรับบันทึกรายละเอียดการถือหุ้นในบริษัท ซึ่งต้องมีรายการดังต่อไปนี้ คือ
1. ชื่อ ที่อยู่ อาชีพของผู้ถือหุ้น และจำนวนเงินชำระค่าหุ้น
2. วันที่ลงทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้น และวันที่ขาดจากการเป็นผู้ถือหุ้น
3. เลขลำดับของหุ้น เลขที่ใบหุ้น และวันที่ลงในใบหุ้น
ขอบคุณบทความดีดีจาก : สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา
คลิกดู โรงพิมพ์ JR