เหล็กไหลเปียกเปลี่ยนสีผิวได้
เหล็กเปียกเป็นเหล็กไหลอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกพบเห็น จะมีความใกล้เคียงกับเหล็กไหลเงินยวง หรือเหล็กไหลชีปะขาว มีผิวพรรณวรรณะเป็นสีเงินยวง แต่สามารถเปลี่ยนสีผิวตัวเองไปมาได้ จากสีขาว เงินยวงไปเป็นสีดำหรือจากสีดำกลับไปเป็นสีขาวเงินยวง คล้ายๆ กับโลหะจำพวกเงินที่เมื่อถูกอากาศก็จะเปลี่ยนสี แต่จะแตกต่างตรงที่โลหะจำพวกเงิน เมื่อเปลี่ยนสีแล้วจะเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเดิมด้วยตนเองไม่ได้
เหล็กไหลเปียกดูดความชื้น
เหล็กไหลเปียกหรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า “เหล็กเปียก” นี้มีความอัศจรรย์ตรงที่สามารถดูดความชื้นในอากาศให้มารวมตัวกันเป็นหยดน้ำ ดังนั้นเมื่อมีเหล็กเปียกอยู่ที่ไหนก็จะมีความชุ่มชื้นที่นั่น (คล้ายเหล็กไหลน้ำ) เหล็กเปียกมักพบเป็นก้อนเหมือนอย่างก้อนแร่ใต้ดิน
พบจากนิมิต
เท่าที่ได้มีการจดบันทึกเอาไว้ ผู้ที่ค้นพบและนำเอาก้อนเหล็กเปียกมาเคี่ยวด้วยวิชาอาคมคือ “ครูบาโพนสะเม็ก” เป็นพระอริยเจ้าทางฝั่งลาว ว่ากันว่า ท่านได้พบเห็นแร่กายสิทธิ์ชนิดนี้ในนิมิต ต่อมาท่านได้นำเอาแร่ชนิดนี้มาหลอมแล้วรีดเป็นแผ่น จากนั้นจึงนำไปบรรจุไว้ที่ยอดฉัตรพระธาตุพนม ตามความเชื่อที่ว่า มีอานุภาพทางป้องกันฟ้าผ่า อัคคีภัย และบันดาลความร่มเย็น เป็นสุขได้
ฤทธิ์อำนาจจากเหล็กไหลเปียกคล้ายคลึงกับเหล็กไหลน้ำ และเหล็กไหลชีปะขาว คือทำให้หัวไม้ขีดยุ่ย ดินปีนเปียก ไม่อาจจุดระเบิดหรือติดไฟขึ้นมาได้ แต่จะต่างกันที่ลักษณะ รูป พรรณสัณฐาน นอกจากนี้ การทำฤทธิ้ของเหล็กเปียกจะก่อให้เกิด ความชื้นขึ้นทุกครั้ง
บรรจุไว้ในพระพุทธรูป
ครูบาอาจารย์ผู้มีภูมิปัญญาความรู้ในเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุ จึงได้นำเอาแร่ชนิดนี้ไปบรรจุไว้ในพระพุทธรูปเพื่อให้ เกิดความอัศจรรย์ อย่างเช่น พระพุทธรูปอุ่นเมือง ที่วัดนํ้าฮู อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีนํ้ามนต์อันศักดิ์สิทธิ์ไหลออกมาจากเศียรขององค์พระพุทธรูปอย่างไม่เคยเหือดแห้ง ซึ่งใน ปี พ.ศ. 2549 ผมได้นำทีมงานของรายการชั่วโมงพิศวงไปร่วมพิสูจน์ความอัศจรรย์ของเหล็กไหลชิ้นนี้มาแล้ว
ในครั้งนั้นทางรายการได้ทำการถ่ายทำทุกขั้นตอนโดยละเอียด เริ่มจากการเปิดเศียรขององค์พระพุทธรูปอุ่นเมือง
จากนั้น ให้ท่านเจ้าอาวาสตักนํ้าที่อยู่ภายในเศียรพระพุทธรูปออกมาจนหมด อีกทั้งยังเอาผ้าซับน้ำในเศียรจนแห้ง จากนั้นก็ปีดเศียรพระพุทธรูปอุ่นเมืองเอาไว้ตามเดิม แล้วจัดการปิดผนึกทำเครื่องหมายล็อคประตู และหน้าต่างทุกบานเอาไว้อย่างแน่นหนา เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่สามารถมีใครแอบเข้าไปภายในได้อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นอีก 7 วัน ผมจึงพาทีมงานกลับมายังวัดนํ้าฮูใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการพิสูจน์และค้นหาความจริงในเรื่องราว อันอัศจรรย์นี้ ทีมงาน และชาวบ้านได้ร่วมกันตรวจสอบ และเปิดผนึกเครื่องหมายที่ปิดไว้ตามบานประตู และหน้าต่าง เป็นการยืนยันได้ว่า ไม่มีผู้ใดเข้าไปภายในสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน
สิ่งที่ประจักษ์ต่อสายตาของทีมงาน และชาวบ้านทุกคนในวันนั้นก็คือ เมื่อเปิดเศียรพระพุทธรูปอุ่นเมือง กลับพบว่า ภายในเศียรมีนํ้าขังอยู่เต็มเศียรองค์พระ เพื่อค้นหาคำตอบ ที่ว่า นํ้าใสบริสุทธิ์เหล่านั้นมาจากไหน และมาได้อย่างไร ผมจึงขออนุญาตปีนขึ้นไปตรวจสอบด้วยตัวเอง จึงพบว่า ภายในเศียร พระพุทธรูปอุ่นเมืองนั้น ภายในบรรจุแร่เหล็กไหลที่มีลักษณะ คล้ายโคตรเหล็กไหล แต่เป็นเหล็กไหลเปียก ซึ่งหาได้ยากมาก เชื่อมติดอยู่กับด้านในขององค์พระพุทธรูป ลึกลงไปจากเศียรราวสิบกว่านิ้ว
ปกติแล้ว แร่เหล็กไหลเปียก จะมีความชื้นสูงและสามารถ ป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าได้ แต่เหล็กไหลเปียกชื้นนี้ กลับมีอานุภาพในการดึงความชื้นในอากาศ ให้เข้ามารวมตัวกันได้อย่าง น่าอัศจรรย์ยิ่
ผมเข้าใจว่า ครูบาอาจารย์ผู้สร้างพระพุทธรูปอุ่นเมือง จะต้องเป็นครูบาอาจารย์ที่มีความรู้ทางต้านธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหลเป็นอย่างดี เพราะสังเกตเห็นได้จากการที่ท่านจงใจสร้างพระพุทธรูป อุ่นเมืองให้สามารถเปิดเศียรออกได้ และยังตั้งใจสร้างโพรงชื้น ภายในเศียรขององค์พระพุทธรูป ด้วยเพราะครูบาอาจารย์ท่าน นั้นทราบดีว่า ต้องการให้พระพุทธรูปองค์นี้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏ ให้มีนํ้ามนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ไหลออกมาจากเศียรพระพุทธรูปนั่นเอง
พระพุทธรูปอุ่นเมืองจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันสำคัญที่วิทยาการทางโลกวัตถุ ยังไม่อาจหาคำอธิบายได้ อีกทั้งยังเป็นวัตถุพยานชิ้นสำคัญ ที่สามารถยืนยันในเรื่องราวแร่เหล็กไหลว่า เป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ ที่มีตัวตนอยู่จริง และมีความอัศจรรย์อย่างแท้จริง น้ำมนต์ที่เกิดภายในเศียรพระพุทธรูปองค์นี้ จึงเป็นน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
เป็นเรื่องดี ที่ครูบาอาจารย์ ผู้มีภูมิความรู้ ได้ถ่ายทอดวิชาการ ทางด้านเหล็กไหลเอาไว้ให้กับคนรุ่นหลัง ดังนั้น ผู้ที่นิยมในแร่เหล็กไหล จึงควรหาโอกาสเดินทางไปกราบหลวงพ่ออุ่นเมืองที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และดื่มนํ้ามนต์อันศักดิ์สิทธิ์ จากแร่เหล็กไหลชิ้นนี้ รับรองได้ว่า เหล็กไหลจะมีอาการโต้ตอบ และมีพลังกลับคืนมาอย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว
แนะนำบทความ