การวางแผนภาษีเกี่ยวกับสวัสดิการพนักงาน
จะต้องเข้าใจเงื่อนไขและองค์ประกอบของความหมายของคำว่า สวัสดิการ ในมุ่งมองตามประมวลรัษฎากรเสียก่อน สวัสดิการที่นายจ้างมีให้กับพนักงานนั้น เพื่อให้ลูกจ้างมีชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ในการทำงานดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายแรงงานจะถือเป็นหลักฐานทางภาษีอากร เพื่อใช้หักเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้ จะต้องมีองค์ประกอบครบ 3 ข้อดังต่อไปนี้
- สวัสดิการต้องมีระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ ออกมาให้แก่ลูกจ้าง
- สวัสดิการนั้นต้องไม่เลือกปฏิบัติ เป็นสวัสดิการที่ให้แก่พนักงาน หรือ ลูกจ้างทุกคน ซึ่งไม่เท่ากันก็ได้แต่ต้องได้ทุกคน
- ต้องเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ
ต้องครบองค์ประกอบทั้ง 3 ประการ สวัสดิการดังกล่าวจึงจะถือเป็นรายจ่ายของกิจการ นำมาคำนวณ กำไรสุทธิของกิจการได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลรัษฎากร
สวัสดิการพนักงาน กับ รายจ่ายส่วนตัว
การที่นายจ้างได้ให้สวัสดิการแก่พนักงาน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการพนักงาน ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ ไม่ต้องห้ามตามประมาลรัษฎากรและหากมีภาษีซื้อเกิดขึ้นจากค่าสวัสดิการพนักงาน ดังกล่าว ก็สามารถเครดิตภาษีซื้อหรือขอคืนได้ แต่สวัสดิการดังกล่าวจะถือเป็นรายจ่ายของกิจการได้จะต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการดังนี้
- ต้องมีระเบียบกำหนดไว้เป็นสวัสดิการพนักงาน
- ต้องให้แก่พนักงานทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ
- ต้องเกี่ยวข้องกับกิจการที่มีผลต่อการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงาน
หากไม่เข้าเงื่อนไขทั้ง 3 ประการแล้ว ไม่ถือว่าเป็นสวัสดิการพนักงาน แต่ถือว่าเป็นรายจ่ายส่วนตัวให้โดยเสน่หา ถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามของกิจการ มาตรา 65 ตรี(3)
ข้อแตกต่างระหว่าง สวัสดิการพนักงาน กับ รายจ่ายส่วนตัว
สวัสดิการพนักงาน
1. มีระเบียบกำหนด
2.ไม่เลือกปฏิบัติกับพนักงาน
3. เกี่ยวข้องกับกิจการ
รายจ่ายส่วนตัว
1.ไม่มีระเบียบเขียนไว้
2. เลือกปฏิบัติหรือเฉพาะเจาะจง
3. ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ
ขอบคุณบทคยวามดีดีจาก : คุณชาญชัย ภูรินันท์ศรี thaitaxreform.com
แนะนำบทความ วางแผนภาษีต่างกับหนีภาษี
คลิกดู โรงพิมพ์ JR