กุมารทอง
กุมารทอง มาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่ เรียกว่า ตายทั้งกลม ผู้มีอาคมจะนําวิญญาณเด็กนั้น มาเลี้ยงเป็นลูก จากเอกสารโบราณ บอกถึงการทํากุมารทองว่า ต้องหาศพตายทั้งกลม แล้วทำพิธีกรรม ผ่าเอาศพทารกในท้องนั้น มาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งอรุณ แล้วบริกรรมคาถา ขณะย่าง เสร็จแล้วลงรักปิดทองให้ทั่ว จึงเรียกว่า กุมารทอง ซึ่งจะทําตามคําสั่งของผู้ที่สร้าง โดยจะทําได้เหมือนเด็กที่โตแล้ว ผู้มีคาถาอาคมจึงพยายามหากุมารทองไว้ใช้
การสร้างกุมารทอง
ปัจจุบันนั้น ไม่สามารถสร้างจากศพทารกจริงๆได้ จึงมีการดัดแปลงกรรมวิธีการสร้าง โดยใช้ดินจากป่าช้าบ้าง ไม้รักซ้อนหรือไม้มะยมบ้าง ไปจนถึงโลหะ มาสร้างเป็นรูปเด็กไว้จุกนุ่งโจงกระเบนอย่างโบราณ แล้วปลูกเสกให้มีจิตวิญญาณเด็กขื้นมา เป็นเครื่องรางของขลัง เสมือนมีวิญญาณสิงสถิตอยู่
การเลี้ยงกุมารทอง
ผู้บูชาต้องเลี้ยงดูเหมือนลูกของตัวเอง หมั่นเซ่นไหว้ นิยมไหว้ด้วยน้ำแดง
กุมารทองช่วยอะไรเจ้าของ
หากดูแลดี กุมารจะช่วยคุ้มครองป้องกันเจ้าของและครอบครัว จากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ช่วยให้ทํามาค้าขี้น เตือนภัยล่วงหน้า เฝ้าระวังบ้านเรือนจากโจรผู้ร้ายและศัตรูไม่ให้มากล่ำกราย สามารถแสดงตัวให้คนในบ้านเห็น หรือในยามที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ กุมารทองนี้ให้ทั้งโชคทั้งเมตตา และยังเป็นมหาเสน่ห์ได้อีกด้วย โดยเฉพาะร้านค้า ร้านอาหารและผู้ประกอบกิจการต่างๆ มักจะมีหุ่นกุมารทองตั้งไว้บูชา เชื่อว่า สามารถเรียกลูกค้าให้เข้าร้าน
ประเภทของกุมารทอง
มี 2 ประเภทคือ
1.กุมารทองที่มีฤทธิ์ด้านทําร้ายศัตรู
กุมารทองประเภทนี้ จะดุร้าย เรียกว่า “เพชรภูตงาน” แบ่งได้เป็น 4 ชนิดด้วยกัน คือ กุมารทองเพชรมั่น กุมารทองเพชรดับ กุมารทองเพชรคง และกุมารทองเพชรสูญ มีไว้สําหรับสังหาร หรือ ทําร้ายศัตรูโดยเฉพาะ ตามตํารากล่าวไว้ว่า การสร้างจะใช้การอัญเชิญวิญญาณให้มาสถิตอยู่ในหุ่นกุมารทอง ซึ่งแต่ละชนิดนั้นจะมีวิธีการทําร้ายศัตรูที่ต่างกันไป
กุมารทองเพชรคงและกุมารทองเพชรมั่นนั้น ดีทางด้านเฝ้าบ้านเรือน ด้วยการสังหารคนแปลกหน้าที่มาบุกรูกบ้าน โดยกุมารทองเพชรคง มีอํานาจในการไล่ตามศัตรู กุมารทองเพชรมั่นจะอยู่แต่ในอาณาเขตบ้านเท่านั้น สิ่งที่ปราบกุมารทองเพชรมั่นได้นั้นได้แก่ วัวธนูที่ทําจากไม้ไผ่หามศพ
กุมารทองเพชรคงจะมีฤทธิ์สูงกว่ากุมารทองเพชรมั่น แต่พ่ายแพ้แก่วัวธนูทองแดง
กุมารทองเพชรสูญ จะมีฤทธิ์ในการทําให้คนวิกลจริต และกล่าวกันว่ากุมารทองเพชรดับเป็นเพชฒฆาตเลือดเย็นที่สุด สามารถหักคอศัตรูอย่างรวดเร็วฉับพลัน กุมารทองจําพวกนี้ยังคงนิยมอยู่ในเฉพาะนักไสยเวทมนตร์ดําที่เก่งกล้า หรือแถบเขมรและอิสลาม ไม่ได้นิยมในหมู่นักสะสมเครื่องรางทั่วไป
2. กุมารทองมีฤทธิ์ด้านเมตตามหานิยม
มีไว้เฝ้าบ้าน และเรียกลูกค้า ซึ่งบันดาลโชคลาภ ผู้บูชาจะตั้งชื่อเอง ชื่อที่เป็นมงคล เรียกทรัพย์ต่างๆ
วิธีสร้างมี 3 วิธี
วิธี 1 คือ สร้างจากวัสดุอาถรรพณ์ ดินในป่าช้า ผงกระดูกเด็กปนละเอียด เรียกว่า ผงพรายกุมาร ปั๋นเป็นกุมาร วางในลักษณะท่านอนและเชิญวิญญาณจากป่าช้า หรือเป็นวิญญาณเด็กที่ติดอยู่กับผงกระดูก ปลุกเสกจนหุ่นลุกขึ้นตั้งได้เอง เมื่อเวลาผ่านไปนานวันวิญญาณภายในตัวกุมารก็สามารถโตขึ้นได้
วิธีที่ 2 สร้างด้วยเนื้อดิน หรือเนื้อไม้ เชิญวิญญาณเทพลงมา กุมารประเภทนี้มักจะไม่ค่อยแสดงตัวเหมือนพวกวิธีแรก
วิธีที่ 3 สร้างด้วยไม้อาถรรพณ์ จําพวกไม้ตาย พรายไม้ยืนต้นตายพราย ไม้โดนฟ้าผ่าตาย ไม้ตกน้ำมัน ต้นไม้ใหญ่ ที่เชื่อว่า มีรุกขเทวดา หรือไม้ที่มีพลังอํานาจหรือไม้มงคลบางชนิด บางที่อาจใช้ไม้กาฝากก็ได้ ไม้ที่นิยมนั้นมักจะสร้างด้วยเนื้อไม้รักซ้อนและไม้มะยม เพราะถือว่าเป็นไม้เทพสถิต ปลุกเสกจนเกิดเป็นวิญญาณขึ้นมา เรียกว่า พราย คือไม่รู้จักโต พรายพวกนี้จะไม่ทําร้ายผู้ใด แต่ถ้าขาดการดูแลจะอ่อนกําลังและสลายไปในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายรูปแบบทั้งท่ายืน นั่ง นอน แล้วแต่ความชํานาญในแต่ละสํานัก อาทิ เช่น กุมารทองกวัก กุมารทองพรายกระซิบ กุมารทองในน้ำมันอาถรรพณ์ กุมารทองเรียกทรัพย์ กุมารทองคะนองฤทธิ์ กุมารทองเสน่ห์จันทร์ กุมารทองเทวฤทธิ์
วิธีบูชา
การบูชานั้นทําโดยการตั้งเครื่องบูชา ประกอบด้วยข้าวปากหม้อ ไข่ต้ม น้ำแดง น้ำสะอาด ขนมหวาน เวลาให้อาหารให้อย่างน้อยเวลาเช้า1 เวลา เมื่อถวายอาหารต้องเรียกชื่อกุมาร(ตามที่เราตั้งชื่อให้) และตกลงกับกุมารทองว่าจะถวายวันใด และควรถวายอย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรถวายพวกน้ำอัดลม ควรถวายพวกน้ำชง เช่น น้ำแดงชง โอวัลตินชง หากมีเด็กๆ อยู่ในบ้านให้เด็กเรียก กุมารว่า พี่
ทิศทางการตั้ง
การจัดตั้งไม่ควรให้กุมารหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ห้ามตั้งไว้ปลายเท้าที่นอน หรือใต้บันได ควรไว้ต่ำกว่าพระพุทธรูป และอย่าเอาไว้ใกล้หิ้งพระ ผู้ที่จะใช้กุมารเพื่อคุ้มครองบ้านเรือน หรือช่วยเหลือกิจการ ติดต่อค้าขาย ต้องหมั่นบูชาบอกเล่าตามความปรารถนา เมื่อมีผลสําเร็จ ร่ำรวยขึ้น ก็ควรจะตอบแทนโดยการซื้อสร้อยที่มีสีทอง หรือของเล่น
กล่าวกันว่าลักษณะนิสัยของกุมารแต่ละตนไม่เหมือนกัน หากเป็นเด็กชายซนๆ ก็จะวิ่งเล่นส่งเสียงดังเสมอ หากเป็นเด็กเรียบร้อยก็จะไม่ค่อยปรากฏตัว หากเป็นเด็กช่างเที่ยวก็มักจะต้องคอยเรียกอยู่เสมอ เรียกว่าหากคิดจะเลี้ยงกุมารทอง ก็คล้ายกับเลี้ยงลูกชายอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว
คาถาบูชา
นะโม 3 จบ
นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ จะภะกะสะ จิเจรุนิ
นะออแอ โมออแอ พุทออแอ ธาออแอ ยะออแอ
มะอะอุ พุทธะสังมิ อิติกุมาโร ประสิทธิเม
ขอบคุณบทความจาก หนังสือเครื่องรางของขลัง
แนะนำบทความ ร่างทรง vs เข้าทรง